บางครั้งบริการสตรีมมิ่งจะจัดกลุ่มศิลปินที่มีชื่อเหมือน (หรือคล้าย) กันไว้ด้วยกัน หรือสร้างหน้าศิลปินใหม่แทนการใช้หน้าที่มีอยู่ของคุณ เครื่องมือ Fixer ของ DistroKid ช่วยคุณได้!

ก่อนที่จะทำเรื่องขอแยก...

เราต้องตรวจสอบก่อนว่าหน้าศิลปินเป็นของใครกันแน่ ตรงไปยังหน้าที่มีเพลงของคุณอยู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลงานที่เก่าที่สุดที่เผยแพร่ในหน้าศิลปินบนบริการต่างๆ ที่คุณประสบปัญหาอยู่เป็นผลงานของคุณ

ถ้าผลงานที่เก่าที่สุดในหน้านั้นๆ ไม่ใช่ ของคุณ...

นี่บอกว่า คุณถูกเชื่อมโยงกับหน้าของศิลปินท่านอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ และคุณสามารถใช้โปรแกรม Fixer เพื่อขอหน้าใหม่ได้! ต่อไปนี้เป็นวิธีขอหน้าศิลปินใหม่:

1. ไปที่ https://distrokid.com/fixer
2. เลือก "เพลงของฉันอยู่ผิดหน้า"
3. เลือกบริการที่ผลงานของคุณถูกเชื่อมโยงอย่างไม่ถูกต้อง
   • โปรดส่งหลายคำขอหากเกิดข้อผิดพลาดในบริการมากกว่าหนึ่งบริการ
   • หากเพลงของคุณถูกเชื่อมโยงบน Spotify หรือ Apple Music / iTunes อย่างไม่ถูกต้อง ให้ข้ามไปยังขั้นตอนที่ 5
4. เลือกเพลงของคุณที่ถูกเชื่อมโยงอย่างไม่ถูกต้อง
5. เลือกศิลปินที่ถูกเชื่อมโยงอย่างไม่ถูกต้อง
   • หากเพลงของคุณถูกเชื่อมโยงบน Spotify หรือ Apple Music / iTunes อย่างไม่ถูกต้อง ให้ข้ามไปยังขั้นตอนที่ 7
6. เพิ่มลิงก์ไปยังเพลงที่ถูกเชื่อมโยงอย่างไม่ถูกต้อง
7. เลือกว่าคุณมีหน้าศิลปินอยู่แล้วหรือไม่สำหรับบริการที่ระบุ
   • เลือก "ไม่" จะเป็นการส่งคำขอสร้างหน้าศิลปินใหม่สำหรับเพลงของคุณ
   • เลือก "ใช่" จะเป็นการส่งคำขอเชื่อมโยงเพลงของคุณไปยังหน้าศิลปินที่ระบุ
8. คลิก "เสร็จสิ้น" เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย!

ถ้าผลงานที่เก่าที่สุดในหน้านั้นๆ เป็น ของคุณ...

1. ไปที่ https://distrokid.com/fixer
2. เลือก "เพลงของคนอื่นอยู่บนหน้าของฉัน"
3. เลือกบริการที่เพลงของศิลปินท่านอื่นถูกเชื่อมโยงกับหน้าของคุณอย่างไม่ถูกต้อง
   • สำหรับ Amazon, Spotify, Tidal และ Pandora คุณสามารถติดตามการดำเนินงานบนบริการเหล่านั้นได้โดยตรงผ่านลิงก์ของผู้ให้บริการ เนื่องจากบริการเหล่านั้นจัดการคำขอแยกศิลปินด้วยตัวเอง
   • โปรดส่งหลายคำขอหากเกิดข้อผิดพลาดในบริการมากกว่าหนึ่งบริการ
4. ป้อนลิงก์ไปยังหน้าศิลปินของคุณในบริการที่คุณเลือก
5. ป้อนลิงก์ไปยังผลงานทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับหน้าศิลปินของคุณอย่างไม่ถูกต้อง
6. คลิก "เสร็จสิ้น" เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย!

บริการจะใช้เวลานานเท่าใดในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมโยงที่ไม่ถูกต้อง

โดยทั่วไป บริการจะประมวลผลคำขอเหล่านี้ภายในไม่กี่วัน แต่บางครั้งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ เราจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อการดำเนินการเสร็จสิ้น ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ หมั่นตรวจสอบที่ร้านค้า

หมายเหตุ: บางร้านค้าสามารถช่วยแก้ไขปัญหาการเชื่อมโยงเพลงได้โดยตรง เช่น Spotify และ Amazon

คุณสามารถส่งคำขอได้โดยตรงผ่านทาง Spotify for Artists และ Amazon Music for Artists

คลิก ที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการเข้าถึง Spotify for Artists และคลิก ที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีเข้าถึง Amazon Music for Artists

URI ย่อมาจาก Uniform Resource Indicator ในกรณีของ Spotify นั้น URI ถูกใช้เพื่อระบุศิลปิน แทร็ก อัลบั้ม เพลย์ลิสต์ นักแต่งเพลง และผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม โดย Apple ก็มีตัวระบุที่คล้ายกันเรียกว่า Apple ID ซึ่งทำงานในลักษณะเดียวกัน

ที่ DistroKid เราใช้ URI ของศิลปินบน Spotify เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงผลงานใดๆ กับหน้าศิลปินที่เฉพาะเจาะจงได้

นอกจากนี้ ยังมีการใช้งาน URI นอกเหนือจาก DistroKid ด้วย ตัวอย่างเช่น บล็อกและสถานีวิทยุอาจขอ URI ของแทร็กจาก Spotify สำหรับซิงเกิลใหม่ก่อนวันที่เผยแพร่ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเพิ่มเพลงนั้นเข้าไปในเพลย์ลิสต์ในวันเผยแพร่ได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นหา URI ของ Spotify โปรดอ่านบทความนี้: https://support.distrokid.com/hc/th/articles/360014159394

ขณะนี้ TIDAL มีช่องทางเข้าถึงศิลปินแล้ว โดย TIDAL Artist Home ซึ่งคุณสามารถจัดการโปรไฟล์ของคุณบน Tidal ได้ ตลอดจนใช้เครื่องมือนักแต่งเพลงเพื่อให้มองเห็นแคตตาล็อกของคุณและเพิ่มความเป็นไปได้ในการได้รับค่าลิขสิทธิ์

จัดการโปรไฟล์ของคุณบน Tidal

TIDAL Artist Home ช่วยให้ศิลปินสามารถจัดการวิธีการปรากฏตัวของพวกเขาต่อแฟนคลับบน TIDAL ได้

คุณสามารถอ้างสิทธิ์ในโปรไฟล์ศิลปินของคุณและปรับแต่งรายละเอียดที่สำคัญ เช่น รูปโปรไฟล์ ประวัติ และลิงก์โซเชียลของคุณ ตลอดจนดูสถิติสำคัญหลายประการเกี่ยวกับประสิทธิภาพเพลงของคุณบนแพลตฟอร์มของ TIDAL

คุณยังสามารถรายงานเนื้อหาที่ไม่ถูกต้องไปยัง TIDAL ได้โดยตรงภายในไม่กี่วินาที เชิญสมาชิกในทีมและเข้าถึงทุกอย่างที่ TIDAL สร้างขึ้นสำหรับศิลปินในอนาคต

เข้าถึงเครื่องมือนักแต่งเพลงบน Tidal Artist Home

เครื่องมือแต่งเพลงของ TIDAL Artist Home ช่วยให้คุณมองเห็นแคตตาล็อกและคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียนและการเผยแพร่ ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับเครดิตและค่าตอบแทนอย่างถูกต้อง โดยมีวิธีการดังนี้:

ขั้นตอนที่ 1:
ทำให้เป็นระเบียบ เริ่มด้วยการควบคุมตัวตนของคุณในฐานะนักแต่งเพลงพร้อมคำแนะนำและการเข้าถึงขั้นตอนการลงทะเบียนและการเผยแพร่ โดยลงทะเบียนกับ PRO (AllTrack); เพื่อจัดระเบียบข้อมูล IPI, PRO และผู้เผยแพร่ของคุณทั้งหมดในที่เดียว และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความสำเร็จในการรวบรวมค่าลิขสิทธิ์ด้วยรายการตรวจสอบง่ายๆ

ขั้นตอนที่ 2:
ตรวจสอบแคตตาล็อกของคุณ โดย TIDAL cross ตรวจสอบผลงานของคุณจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย และจัดหมวดหมู่ผลงานออกเป็นสามกลุ่มอย่างชาญฉลาด: งานที่เสร็จสมบูรณ์, งานที่ไม่มีการบันทึกไว้ และงานที่ไม่ตรงกัน การแสดงภาพที่ชัดเจนนี้ช่วยให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกและมองเห็นแคตตาล็อกของคุณได้มากขึ้น เน้นข้อมูลเมตาที่ขาดหายไป และให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีแก้ไขข้อมูลที่ไม่ตรงกันหรือช่องว่างเพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมที่สุด (และแม่นยำ)

ขั้นตอนที่ 3:
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ ตรวจสอบงานแต่ละชิ้นเพื่อรายงานความไม่ถูกต้อง เพิ่ม ISWC แก้ไขการบันทึกที่ตรงกัน และสร้างแผ่นงานแยกที่สามารถแชร์กับผู้เขียนร่วมเพื่อติดตามสิทธิ์การเป็นเจ้าของของผู้แต่ง

วิธีอ้างสิทธิ์โปรไฟล์ศิลปิน TIDAL ของคุณโดยใช้ DistroKid:

• ลงชื่อเข้าใช้ DistroKid
• คลิกเมนูฟีเจอร์ DistroKid ที่มุมขวาบน
• คลิก "การเข้าถึงพิเศษ"
• คลิก "TIDAL Artist Home" จากนั้นคลิก "เริ่ม"
• ปฏิบัติตามคำแนะนำของ TIDAL เพื่อเข้าถึงโปรไฟล์ศิลปินของคุณ

หากต้องการส่งเพลงของคุณไปยังแคตตาล็อกเพลงของ Instagram และ Facebook โปรดเลือก "Instagram และ Facebook" ในส่วน "บริการ" เมื่ออัปโหลดเพลงของคุณบน DistroKid

ถ้าต้องการส่งผลงานไปยัง Instagram และ Facebook หลังจากที่ผลงานของคุณอัปโหลดไปแล้ว ให้ไปที่หน้าอัลบั้มโดยการลงชื่อเข้าใช้ DistroKid คลิกที่ผลงานของคุณจากแดชบอร์ดหลัก จากหน้าอัลบั้ม คลิก "เพิ่มไปยังร้านค้าเพิ่มเติม" ในส่วน "ร้านค้า" จากนั้นเลือก "Instagram/Facebook" (พร้อมกับบริการอื่นๆ ที่คุณต้องการส่งผลงานของคุณไป) จากนั้นคลิก "เพิ่ม"

ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเลือกเผยแพร่ไปยัง Instagram/Facebook การเพิ่มเพลงของคุณลงในคลังเพลงของ Instagram/Facebook จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเพลงของคุณลงในโพสต์ของพวกเขาได้ หากคุณต้องการให้ Instagram และ Facebook ค้นหาโพสต์ที่ใช้เพลงของคุณโดยตรง (โดยไม่ใช้คลังเพลง) และช่วยให้คุณได้รับค่าตอบแทนจากการใช้งานนั้น โปรดอ่านแพ็กเกจโซเชียลมีเดียของ DistroKid ที่นี่

โปรดทราบว่า วิดีโออาจถูกปิดเสียงเนื่องจากข้อจำกัดของผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว Facebook/Instagram ไม่อนุญาตให้มีวิดีโอที่เลียนแบบประสบการณ์การฟังแบบเสียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น ภาพนิ่ง วิดีโอ หรือการถ่ายทอดสดที่มีเสียงที่ตรงกันจำนวนมาก

การสร้างรายได้บน Instagram/Facebook

การเลือกเผยแพร่ไปยัง Instagram/Facebook จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถนำเพลงของคุณไปใช้ในเนื้อหาที่พวกเขาสร้างผ่านคลังเสียงที่สามารถค้นหาได้ รายได้จะถูกส่งโดย Meta สำหรับการใช้งานเพลงของคุณผ่านคลังเสียงของพวกเขา

หากคุณต้องการสร้างรายได้จากเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นบน Facebook และ Instagram โปรดอ่านแพ็กเกจโซเชียลมีเดียของ DistroKid ที่นี่

หากคุณค้นหาเพลงของคุณบนบริการต่างๆ ด้วยชื่อศิลปินหรือชื่อผลงานแต่ยังไม่พบ อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจากอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

• เพลงของคุณอาจจะยังไม่ถูกเผยแพร่ หากคุณกำหนดวันที่เผยแพร่ในอนาคต คุณจะไม่สามารถค้นหาผลงานบนบริการได้จนกว่าจะถึงวันที่เผยแพร่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระยะเวลาในการเผยแพร่เพลงไปยังบริการ โปรดคลิก ที่นี่
• ผลงานของคุณประกอบด้วยเพลง cover ซึ่งอาจใช้เวลาสูงสุด 14 วันในการขอใบอนุญาตเพลง cover สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเพลง cover โปรดอ่าน บทความนี้
• คุณกำลังค้นหาเพลงของคุณบนบริการที่มีการจัดทำแคตตาล็อก โปรดอ่าน บทความนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการที่จัดทำแคตตาล็อก
• บริการ อาจจะกำลังจัดทำดัชนีชื่อศิลปินของคุณอยู่ แม้ว่าเพลงของคุณจะเผยแพร่ไปแล้ว ชื่อศิลปินของคุณอาจยังไม่ปรากฏในผลการค้นหาจนกว่าจะจัดทำดัชนีเสร็จสิ้น บริการ จัดการเรื่องนี้ภายในองค์กรและโดยปกติจะใช้เวลาไม่นานหลังจากที่มีการเผยแพร่ เหตุการณ์นี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งหากเป็นครั้งแรกที่คุณใช้ชื่อศิลปินนั้นๆ
• ชื่อผลงานของคุณพบได้บ่อยเกินไป หากคุณใช้ชื่อเพลงหรืออัลบั้มที่ค่อนข้างธรรมดา เช่น "Home" ผลงานนั้นอาจไม่แสดงอยู่ด้านบนของผลการค้นหาถ้ามีผลงานอื่นที่มีชื่อเดียวกันและได้รับความนิยมมากกว่า

บัญชี Musician Plus และ Ultimate ของ DistroKid ให้คุณเข้าถึงสถิติรายวันโดยประมาณจาก Spotify, Apple Music, iTunes และ Amazon

บางครั้งตัวเลขในสถิติรายวันแตกต่างไปบ้างจากตัวเลขที่แสดงในงบรายได้รายเดือนของคุณ โดยอาจจะลดลงถึงศูนย์ในบางครั้ง ไม่ต้องกลัว! นั่นเป็นเรื่องปกติ และไม่มีอะไรต้องกังวล

โดยทั่วไปแล้วจะเกิดจากปัญหาในการรายงานของบริการสตรีมมิ่งไปยัง DistroKid (API) และโดยทั่วไปปัญหาประเภทนี้จะได้รับการแก้ไขภายใน 24 ชั่วโมงโดยประมาณ

สิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าสถิติโดยประมาณมาจากระบบที่แตกต่างจากการรายงานรายได้โดยสิ้นเชิง และความผันผวนใดๆ จะไม่มีผลกระทบต่อรายได้จริงของคุณจากบริการสตรีม/การขาย

Countdown Page ของ Spotify ช่วยให้แฟนๆ สามารถบันทึกผลงานที่กำลังจะเผยแพร่ของคุณบน Spotify ล่วงหน้าได้ แฟนๆ ยังสามารถดูตัวอย่างรายการเพลง ชมคลิป ซื้อสินค้า และตรวจสอบเวลาที่กำลังนับถอยหลังสำหรับการเผยแพร่ได้ ทั้งหมดนี้ ที่เดียวบน Spotify

คุณไม่สามารถตั้งค่า Countdown Page ของ Spotify ผ่าน DistroKid ได้ หากต้องการตั้งค่า คุณจะต้องเข้าสู่ระบบที่ Spotify for Artists

คุณสมบัติสำหรับ Countdown Page ของ Spotify

คุณสมบัติสำหรับ Countdown Page ของ Spotify ทั้งหมดถูกดำเนินการโดย Spotify หากต้องการตรวจสอบข้อกำหนดล่าสุด โปรดไปที่ https://support.spotify.com/th/artists/article/countdown-pages.

การสร้าง Countdown Page ของ Spotify

หากหน้าศิลปินของคุณมีสิทธิ์ในการสร้าง Countdown Page บน Spotify for Artists นี่คือขั้นตอนการสร้าง Countdown Page สำหรับผลงานที่กำลังจะเผยแพร่:

1. เข้าสู่ระบบ Spotify for Artists บนเว็บ
2. ไปที่แท็บเพลง จากนั้นเลือกกำลังจะมาถึง
3. เลือกการเผยแพร่ และคลิกเริ่มต้นใช้งาน
4. อัพโหลดคลิปและแท็กสินค้าของคุณ
5. ตรวจสอบและเผยแพร่

URI ของ Spotify เป็นตัวระบุเฉพาะที่ Spotify กำหนดให้กับศิลปิน อัลบั้ม และแทร็กทั้งหมด หากคุณต้องการค้นหา URI ของคุณไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ทำตามนี้!

หากคุณได้อัปโหลดผลงานผ่าน DistroKid และต้องการค้นหา URI สำหรับศิลปิน อัลบั้ม หรือแทร็ก คุณสามารถใช้เครื่องมือค้นหา URI ของ DistroKid ได้ที่นี่: https://distrokid.com/uri

นี่คือวิดีโอสรุปการทำงานของเครื่องมือค้นหา URI ของเรา:

โปรดทราบว่าสำหรับการอัปโหลดล่าสุด อาจต้องรอหนึ่งหรือสองวันเพื่อให้ URI ปรากฏในการค้นหา

หากคุณต้องการ URI สำหรับการเผยแพร่ที่คุณ ไม่ได้ อัปโหลดผ่าน DistroKid ทำตามขั้นตอนเหล่านี้บนแอป Spotify เดสก์ท็อป (ไม่ใช่บนเว็บไซต์):

1. คลิกจุดสามจุดถัดจากชื่อศิลปิน/อัลบั้ม/แทร็ก
2. คลิก 'แชร์'
3. คลิก 'คัดลอก Spotify URI' จากเมนูที่สอง

หากต้องการ URI ให้กดปุ่ม option ค้างไว้สำหรับ Mac หรือปุ่ม alt ค้างไว้สำหรับ Windows ในขณะที่วางลูกศรเมาส์ไว้เหนือเมนูแชร์

คุณยังสามารถแปลง URL ของ Spotify เป็น URI ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจาก URI และ URL ใช้โค้ดภายในเดียวกัน! ตัวอย่าง:

URI: spotify:artist:EXAMPLE
URL: https://open.spotify.com/artist/EXAMPLE

ลิงก์ทั้งสองใช้รหัสเดียวกัน: EXAMPLE

ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือส่วนด้านหน้า:

https://open.spotify.com/artist/ กับ spotify:artist:

แน่นอนว่าเป็นไปได้ที่จะอ้างสิทธิ์โปรไฟล์ Spotify for Artists ของคุณก่อนการเผยแพร่ครั้งแรก เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีเวลาเพียงพอในการอ้างสิทธิ์โปรไฟล์ คุณควรทำการอัปโหลดเพลงของคุณ ล่วงหน้าอย่างน้อยสี่สัปดาห์ ก่อนวันเผยแพร่

เมื่อคุณอัปโหลดเพลงของคุณบน DistroKid และเราได้จัดส่งไปยังบริการต่างๆ เรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องค้นหา URI ของศิลปินบน Spotify ของคุณ ข่าวดี! DistroKid มีเครื่องมือช่วย!

เครื่องมือค้นหา Spotify ของ DistroKid

หากต้องการตรวจสอบว่าโปรไฟล์ศิลปิน Spotify ใดที่ผลงานของคุณจะถูกเชื่อมโยงในวันที่เผยแพร่ คุณสามารถขอ URI ของคุณผ่านเครื่องมือค้นหา Spotify URI ของ DistroKid ได้!

ตัวค้นหา Spotify URI: https://distrokid.com/uri/spotify

เมื่อคุณอยู่ในตัวค้นหา Spotify URI ให้เลือกการเผยแพร่ของคุณจากเมนูเลื่อนลง ถ้ามีเพียงการเผยแพร่เดียวในบัญชี มันจะถูกเลือกไว้แล้ว โปรดทราบว่าหากคุณไม่เห็นการเผยแพร่ อาจเป็นไปได้ว่าเรายังไม่ได้ส่งมอบให้กับ Spotify โปรดกลับมาตรวจสอบอีกครั้งในวันพรุ่งนี้!

หลังจากที่คุณเลือกการเผยแพร่แล้ว ให้คลิกปุ่ม "Spotify URI คืออะไร" หาก Spotify นำเข้าผลงานของคุณแล้ว คุณควรเห็น URI ของอัลบั้ม แทร็ก และศิลปิน

หากคุณมีศิลปินหลายคนในผลงานที่คุณพยายามอ้างสิทธิ์โปรไฟล์ ไม่ต้องกังวล! โปรไฟล์ศิลปินทั้งหมดและบทบาทของพวกเขาจะแสดงอยู่ในส่วน "ศิลปิน:" ลองเช็คดู!

หาก Spotify ยังไม่ได้นำเข้าผลงานของคุณ คุณอาจพบหน้าจอนี้:

ไม่ต้องกังวล! โดยทั่วไปแล้ว Spotify จะใช้เวลาประมาณหนึ่งวันในการนำเข้าเพลง ข้อมูล URI ของคุณจะพร้อมใช้งานในวันถัดไป!

ในกรณีนี้ โปรดกลับมาตรวจสอบอีกครั้งในอีก 2-3 วัน Spotify น่าจะนำเข้าการเผยแพร่ของคุณและพร้อมรับคำขอสำหรับ URI ที่ หน้านี้

ฉันมี URI ของศิลปินบน Spotify แล้ว... ต้องทำยังไงต่อ?

เมื่อคุณได้รับ URI ศิลปินแล้ว คุณจะต้องไปที่ https://artists.spotify.com/claim เพื่ออ้างสิทธิ์เพจของคุณโดยตรงผ่าน Spotify คุณน่าจะเห็นหน้าจอแบบนี้:

เลือก "ศิลปินหรือผู้จัดการ" เพื่ออ้างสิทธิ์ในโปรไฟล์ของคุณ

จากนั้น Spotify จะขอให้คุณเข้าสู่ระบบ คุณต้องมีบัญชี Spotify ฟรีเป็นอย่างน้อยเพื่อใช้งาน Spotify for Artists โปรดดำเนินการเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว คุณจะพบหน้านี้:

คลิกดำเนินการต่อเพื่อไปยังหน้าที่คุณจะป้อน URI ศิลปิน Spotify ของคุณ โดยคุณจะพบหน้าเว็บที่มีแถบค้นหาอยู่ตรงกลาง ป้อน URI ศิลปิน Spotify ที่คุณดึงมาจากเครื่องมือค้นหาด้านบนในช่องนี้

หากคุณได้รับ URI และพยายามอ้างสิทธิ์ในโปรไฟล์ของคุณภายในหนึ่งหรือสองวัน คุณอาจไม่เห็นผลลัพธ์ใดๆ ที่ปรากฏอยู่ในหน้านี้

หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นไปได้ว่า Spotify ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะสร้างโปรไฟล์ศิลปินนี้ให้กับคุณ แม้ว่าผลงานของคุณจะถูกนำเข้าระบบแล้วก็ตาม

ลองอีกครั้งในวันถัดไป น่าจะไม่มีปัญหาแล้ว

ได้!

Apple Digital Masters (เดิมเรียกว่า 'Mastered for iTunes') ช่วยให้คุณสามารถส่งมาสเตอร์ความละเอียดสูงพร้อมเสียงคุณภาพสูงสุดไปยัง Apple

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียงของคุณเป็นไฟล์ WAV ความละเอียด 24 บิต โดยมีอัตราตัวอย่าง 44.1kHz หรือสูงกว่า ด้วยการเข้ารหัสจากต้นฉบับที่มีความละเอียดสูง วิศวกรเพลงของ Apple ถึงจะสามารถตรวจพบรายละเอียดทั้งหมดของการบันทึกในขนาดที่สะดวกสำหรับการสตรีมและการดาวน์โหลด การใช้ไฟล์ 24 บิตหมายถึงสัญญาณรบกวนจะน้อยลงและประสิทธิภาพการเข้ารหัสที่สูงขึ้น ทำให้การอัปโหลดของคุณแทบจะแยกไม่ออกจากการบันทึกต้นฉบับเลย
หากต้องการเปิดใช้งาน Apple Digital Masters ในบัญชีของคุณ คลิกที่นี่

เมื่อเปิดใช้งานแล้ว ระบบจะขอให้คุณป้อนที่อยู่อีเมล Apple Digital Masters Mastering House ที่ Apple อนุมัติในแบบฟอร์มอัปโหลด โดยที่อยู่อีเมลจะต้องอยู่ในรายชื่อที่ได้รับอนุมัติของ Apple เพื่อให้การเผยแพร่ของคุณมีป้ายกำกับว่า Apple Digital Master สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูบทความของ Apple ที่นี่

หมายเหตุ: เพลงที่เคยมาสเตอร์ทั้งหมดสำหรับ iTunes จะยังคงใช้งานได้ภายใต้โปรแกรม Apple Digital Masters

การรีแบรนด์และ Apple Music

เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบาย Apple จึงไม่รับคำขอเปลี่ยนชื่อ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ชื่อแรกที่ส่งให้กับ Apple จะเป็นชื่อที่เชื่อมโยงอย่างถาวรกับการเผยแพร่นั้นๆ

การติดต่อ Apple เกี่ยวกับเรื่องนี้จะไม่ส่งผลให้มีการเปลี่ยนชื่อ

หากคุณไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ภายใต้ชื่อที่ส่งให้กับ Apple คุณสามารถขอลบการเผยแพร่ของคุณออกจาก Apple ได้โดยทำตาม คำแนะนำเหล่านี้

หากคุณลบการเผยแพร่และส่งการเผยแพร่เดียวกันโดยใช้ชื่ออื่น Apple จะลบการเผยแพร่ของคุณออกจากบริการของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม คุณยังคงสามารถอัปโหลดผลงานใหม่ภายใต้ชื่อใหม่ได้!

หากคุณขอเปลี่ยนชื่อก่อนวันที่ 8 มิถุนายน 2023:

ก่อนหน้านี้ Apple ยอมรับที่จะดำเนินการเปลี่ยนชื่อที่ส่งมายัง DistroKid ภายในวันที่ 8 มิถุนายน 2023 คุณอาจได้รับการแจ้งเตือนจากเราที่ระบุว่าการเปลี่ยนชื่อของคุณอยู่ระหว่างดำเนินการ

Apple ได้แก้ไขนโยบายและจะไม่ยอมรับคำขอเปลี่ยนชื่อเหล่านั้นอีกต่อไป

วางใจได้ว่าคุณสามารถใช้ชื่อศิลปินใหม่กับผลงานใหม่ที่คุณอัปโหลดไปยังบัญชี DistroKid ได้

"ฉันติดต่อ Apple แล้วพวกเขาบอกว่า DistroKid สามารถอัปเดตชื่อของฉันได้ หมายความว่าอะไร?"

หากคุณติดต่อ Apple เกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อ (ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การกระทำนี้จะไม่ส่งผลให้มีการดำเนินการเปลี่ยนชื่อ) พวกเขาอาจตีกลับมาหาเราโดยบอกว่าเราอำนวยความสะดวกในการอัปเดตข้อมูลเมตาในฐานะผู้จัดจำหน่ายของคุณ

ในฐานะผู้จัดจำหน่าย เราอำนวยความสะดวกในการอัปเดตข้อมูลเมตา! อย่างไรก็ตาม DistroKid อัปเดตได้เฉพาะข้อมูลที่สอดคล้องกับกฎการจัดรูปแบบของ Apple เท่านั้น และนโยบายปัจจุบันคือไม่สามารถเปลี่ยนชื่อศิลปินในเนื้อหาที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ได้

คุณยังคงสามารถอัปเดตชื่อศิลปินของคุณบนเนื้อหาที่เผยแพร่ไปแล้วสำหรับร้านค้าอื่นๆ และเนื้อหาในการเผยแพร่ใหม่ภายใต้ชื่อใหม่สำหรับ Apple

YouTube Music เป็นบริการสตรีมเพลงที่พัฒนาโดย YouTube และทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเพลงเฉพาะของพวกเขา YouTube Music เชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม YouTube ทั่วไป และเพลงที่ส่งไปยัง YouTube ผ่าน DistroKid จะพร้อมฟังทั้งบน YouTube Music และแพลตฟอร์มหลักของ YouTube

การส่งเพลงของคุณไปยัง YouTube Music ช่วยให้คุณมีสิทธิ์เปลี่ยนช่องของคุณเป็นช่องอย่างเป็นทางการของศิลปิน ซึ่งมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมมากมาย คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่องอย่างเป็นทางการของศิลปินได้ ที่นี่

ขณะนี้ YouTube Music สามารถใช้งานได้ในทุกพื้นที่ที่ YouTube มีบริการเพลงแบบสมัครสมาชิก และจะรองรับพื้นที่เพิ่มเติมในอนาคต สำหรับรายชื่อประเทศทั้งหมด โปรดอ่านบทความนี้จาก Google: https://support.google.com/youtubemusic/answer/6313540

หากคุณพยายามเล่นวิดีโอแทร็กภาพบน YouTube Music นอกพื้นที่รองรับ คุณอาจพบข้อความแจ้งว่าเนื้อหาไม่พร้อมใช้งาน

YouTube Shorts ไลบรารีคือฐานข้อมูลเพลงที่ผู้ใช้ YouTube สามารถค้นหาเพื่อเลือกเพลงที่จะเพิ่มลงในเนื้อหา YouTube Shorts ของพวกเขา โดยการเลือกเข้าร่วม Social Media Pack จะทำให้ผลงานของคุณถูกเพิ่มในไลบรารี Shorts และคุณจะได้รับเงินทุกครั้งที่มีคนใช้เพลงของคุณในเนื้อหา YouTube Shorts

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ YouTube Shorts จาก Google/YouTube โปรด ดูที่นี่

กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้ในบางครั้งเมื่อคุณอัปโหลดอัลบั้มที่มีซิงเกิลอยู่ โดยอัลบั้มมีวันที่เผยแพร่ช้ากว่าซิงเกิล เนื่องจากวันเผยแพร่ล่าสุดคือสิ่งที่ Instagram ให้ความสนใจ ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่าวันที่เผยแพร่ของซิงเกิลจะถูกเขียนทับด้วยวันที่เผยแพร่ของอัลบั้มใน Instagram

เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โปรดส่งคำขอไปที่ Instagram อีกครั้งที่นี่:
แบบฟอร์ม Instagram Resubmissions

คุณสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้โดยการอัปโหลดอัลบั้มก่อนซิงเกิล หรือโดยการส่งคำขอ "อัปเดต" วันเผยแพร่ของซิงเกิลใน DistroKid ให้เป็นวันเผยแพร่เดิม หลังจากอัปโหลดอัลบั้มที่มีซิงเกิลเหล่านั้นอยู่

ได้! คุณสามารถเลือก “Instagram & Facebook” เป็นร้านค้าในแบบฟอร์มอัปโหลด และเพิ่มผลงานของคุณลงในคลังเสียงของทั้งสองแพลตฟอร์ม

ผู้ใช้งาน Instagram และ Facebook สามารถค้นหาเพลงของคุณในคลังเสียงและนำมาใช้ทั้งในสตอรี่และ Reels ของพวกเขาได้

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการสร้างรายได้จาก UGC (เนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้งานซึ่งใช้เพลงของคุณและโพสต์ลงบนแพลตฟอร์มโดยไม่ได้เลือกจากคลังเสียง) คุณจะต้องเลือกใช้ Social Media Pack

นี่คือวิธีค้นหาลิงก์ไปยังเสียงของคุณบน TikTok:

1. เปิด TikTok จากนั้นคลิกที่ฟีเจอร์ "ค้นหา"
2. ค้นหาชื่อศิลปิน และ ชื่อเพลงของคุณ
3. ที่แถบตัวกรองด้านบน ให้เลือกตัวเลือก "เสียง" แล้วค้นหาเสียงของคุณ
4. คลิกไอคอน "แชร์" ที่มุมขวาบนเพื่อคัดลอกลิงก์เสียงของคุณ

DistroKid สามารถช่วยให้คุณได้รับรายได้จากการใช้เพลงของคุณบน TikTok และบริการอื่นๆ ของ Bytedance เพลงทั้งหมดที่คุณส่งไปยัง TikTok ผ่านแบบฟอร์มอัปโหลดของเราจะสร้างรายได้ผ่านคลังเสียงของ TikTok แต่มีขั้นตอนเพิ่มเติมที่คุณสามารถทำได้หากคุณต้องการรับเงินเมื่อมีคนใช้เพลงของคุณใน UGC ของพวกเขาบน TikTok เพื่อรับรายได้ โปรดซื้อส่วนเสริมสำหรับอัลบั้ม แพ็กเกจโซเชียลมีเดียสำหรับเพลงของคุณ

การเพิ่มเพลงของคุณไปยังคลังเสียงของ TikTok (Bytedance) ทำให้ผู้ใช้งาน TikTok สามารถใช้เพลงของคุณในวิดีโอของพวกเขาภายในแอปได้อย่างง่ายดาย หากวิดีโอของพวกเขาไม่มีเพลง และเพลงของคุณถูกเพิ่มเข้าไปในวิดีโอ TikTok จะส่งรายได้จากการใช้งานเพลงนั้นให้กับคุณ

หากมีใครอัปโหลดวิดีโอ TikTok ที่มีเพลงอยู่แล้ว (โดยไม่ใช้คลังเสียงของ Bytedance) วิดีโอดังกล่าวจะถูกจัดประเภทเป็น เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (user-generated content, UGC) คุณจะไม่ได้รับรายได้จากวิดีโอ UGC ยกเว้นในกรณีที่คุณเลือกใช้งานส่วนเสริมสำหรับอัลบั้มแพ็กเกจโซเชียลมีเดีย ซึ่งจะช่วยให้ TikTok ติดตามการใช้เพลงของคุณในวิดีโอ UGC และส่งรายได้ให้กับ DistroKid สำหรับการใช้งานนั้น

การสร้างรายได้จากคลังเสียง Bytedance

หากต้องการเพิ่มเพลงของคุณไปยังคลังเสียงของ TikTok โปรดเลือก "TikTok และร้านค้าอื่นๆ ของ ByteDance" ในแบบฟอร์มอัปโหลด DistroKid ระหว่างการอัปโหลด หรือเลือก "เพิ่มไปยังร้านค้าเพิ่มเติม" จากแดชบอร์ดผลงานของคุณหากได้อัปโหลดไปแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเลือกใช้งานส่วนเสริมสำหรับอัลบั้มแพ็กเกจโซเชียลมีเดียเพื่อให้เพลงของคุณเข้าไปยังคลังเสียงของ TikTok หรือเพื่อสร้างรายได้จากเพลงของคุณบน TikTok ผ่านคลังของพวกเขา

100% ของรายได้ที่เราได้รับจากการใช้เพลงของคุณผ่านคลังเสียงของ Bytedance จะเป็นของคุณ โดยคุณสามารถติดตามรายได้จากแท็บธนาคาร DistroKid ของคุณ

การสร้างรายได้จากเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น

เนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น (UGC) คือเนื้อหาที่ครีเอเตอร์ใช้เพลงของคุณในวิดีโอ แต่ไม่ได้เลือกเพลงของคุณจากคลังเสียง โดยทั่วไปแล้ว สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหากเพลงของคุณถูกรวมอยู่ในวิดีโอตั้งแต่ตอนอัปโหลด โดยไม่ได้ถูกเพิ่มเข้าไปในภายหลัง

การส่งไฟล์เสียงของคุณไปยังคลังเสียงของ TikTok จะไม่สามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาประเภทนี้ได้ หากต้องการสร้างรายได้จากเนื้อหา UGC บน TikTok โปรดเลือกใช้ส่วนเสริมสำหรับอัลบั้ม แพ็กเกจโซเชียลมีเดีย สำหรับแทร็กของคุณ ซึ่งจะเพิ่มเพลงที่เลือกไปยังบริการระบุเพลงของ TikTok และคุณจะได้รับ 80% ของรายได้ทั้งหมดที่สร้างขึ้นจาก UGC ในอนาคต

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนเสริมสำหรับอัลบั้มแพ็กเกจโซเชียลมีเดีย โปรดอ่านบทความนี้: https://support.distrokid.com/hc/th/articles/30785369645843

ใช่!

เราสามารถเผยแพร่เพลงของคุณไปยัง Roblox ได้

ในทุกวัน มีผู้คนนับล้านไปที่ Roblox เพื่อสร้าง เล่น ทำงาน เรียนรู้ และเชื่อมต่อกันในประสบการณ์ที่สร้างขึ้นโดยชุมชนผู้สร้างระดับโลก

หากต้องการเผยแพร่งานของคุณไปยัง Roblox เพียงตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือก "Roblox" ในแบบฟอร์มอัปโหลด DistroKid

หากต้องการเพิ่มการเผยแพร่ก่อนหน้าไปยัง Roblox:

1. ลงชื่อเข้าใช้ DistroKid
2. ไปที่หน้าอัลบั้มของคุณ
3. คลิกอัลบั้ม (หรือซิงเกิล) ของคุณ
4. คลิก "เพิ่มไปยังร้านค้าเพิ่มเติม"
5. เลือก "Roblox" จากรายการที่ปรากฏ

โปรดทราบ: 

• ร้านค้าครีเอเตอร์ของ Roblox จัดทำขึ้นอย่างระมัดระวัง การเลือกที่จะเผยแพร่ผลงานของคุณไม่ได้รับประกันว่าผลงานนั้นจะปรากฏบนแพลตฟอร์ม
• Roblox ไม่ยอมรับ เนื้อหาล่อแหลม
  • ดูที่นี่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของชุมชน Roblox
• คุณต้องเป็นเจ้าของสิทธิ์ในการเผยแพร่ 100% และไม่ได้จดทะเบียนกับองค์กรด้านลิขสิทธิ์ทางการแสดง (เช่น ASCAP, BMI เป็นต้น)
• เพลงบน Roblox ไม่สามารถสร้างรายได้ในขณะนี้

เมื่อคุณเลือกใช้งานแล้ว DistroKid จะเพิ่มเพลงของคุณไปยังฐานข้อมูลของ Roblox

เมื่อครีเอเตอร์บน Roblox ค้นหาเพลงที่จะใช้ในเกมและประสบการณ์ของพวกเขา เพลงของคุณ (หาก Roblox ยอมรับ) จะพร้อมให้ใช้งานได้ในร้านค้าครีเอเตอร์ของ Roblox

คุณจะได้รับการยืนยันโดยอัตโนมัติเมื่อคุณอ้างสิทธิ์โปรไฟล์ศิลปิน Anghami และสร้างบัญชีแดชบอร์ด

เรียนรู้วิธีอ้างสิทธิ์โปรไฟล์ Anghami ของคุณที่นี่:
https://support.anghami.com/hc/en-us/articles/1260806760170-How-to-claim-my-artist-profile

หากคุณมีบัญชีแดชบอร์ด Anghami คุณสามารถดูวิธีการเสนอเพลย์ลิสต์ของ Anghami ได้โดยเข้าสู่ระบบและไปที่การโปรโมตเนื้อหา > เสนอเพลงไปยังเพลย์ลิสต์ และเลือกแทร็กที่คุณต้องการ

ทีมงานจะตรวจสอบและแจ้งให้คุณทราบทางอีเมลในกรณีที่เพลงถูกเพิ่มลงในเพลย์ลิสต์ของ Anghami

ในกรณีที่คุณไม่มีบัญชีแดชบอร์ด คุณสามารถส่งคำขอไปที่ artistsupport@anghami.com